Introduction
มีคำกล่าวในภาษาฝรั่งเศสที่ว่า “Apprendre une langue, c’est vivre de nouveau.” (ได้เรียนภาษาหนึ่งเหมือนมีชีวิตใหม่) ทุกวันนี้ เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ภาษาเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก หากไม่มีภาษา นั่นหมายถึงวิธีการสื่อสารหายไปเกือบทั้งหมด (ภาษากายก็เป็นภาษา) และเราคงไม่มีสิ่งต่างๆที่เราเห็นกันทุกวันนี้
ในโลกนี้มีภาษาอยู่ประมาณ 5000-7500 ภาษา แต่มีประมาณ 2000 ภาษาในจำนวนนี้ที่มีคนพูดไม่ถึง 1000 คน และ มีการคาดการจากนักวิชาการว่า 50-90% ของภาษาที่ใช้ในปี 2000 จะสูญพันธุ์ภายในปี 2100 นั่นหมายความว่า ในอนาคต จะมีภาษาที่มีความเป็นสากลเหลืออยู่เท่านั้น (ส่วนนี้ส่งผลกับเรา แม้เราจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงปี 2100 ก็ตาม)
การเรียนรู้ภาษาใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสามารถใช้สื่อสารได้เข้าใจกัน ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศ
มีแรงบันดาลใจ
หากคุณต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คุณควรมีแรงบันดาลใจในการผลักดันตัวเองในวันที่คุณท้อ บางครั้งแรงบันดาลใจอาจจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ เช่น ดารา การ์ตูน เกม หรือหนังสือ หรืออาจจะเป็นสิ่งที่้เป็นเป้าหมายในชีวิต เช่น เรียนภาษาไปเพื่อทำงานหรือเรียนภาษาไปเพื่อพูดคุยกับเพื่อนหริอคนรู้จัก ซึ่งหากแรงบันดาลใจของคุณทำให้คุณหนักแน่นพอ คุณจะสามารถไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
ตั้งเป้าหมายและไปให้ถึง
การตั้งเป้าหมาย เช่น จะสอบวัดระดับที่...ให้ได้ภายใน... หรือ จะเรียนให้ถึงบท...ภายใน... จะทำให้คุณไม่รู้สึกว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ไม่มีความหมาย การตั้งเป้าหมายนั้นใช่ได้กับสิ่งอื่นนอกเหนือจากการเรียนภาษาได้ด้วย
ฟังพูดอ่านเขียน: 4 ทักษะ
การฟังสามารถฝึกฝนได้จากสื่อต่างๆที่หาได้ง่ายในปัจจุบัน เช่น เพลง ภาพยนตร์ หรือ Podcast โดยหากเป็นภาพยนตร์ เราอาจจะดูครั้งแรกโดยเปิดซับไตเติลที่เป็นภาษานั้นๆ (ส่วนตัวไม่ค่อยแนะนำซับฯไทยเท่าไร เพราะหลายครั้งแปลแล้วมีความคลาดเคลื่อนของความหมาย เนื่องจากผู้แปลต้องการให้ประโยคสวยงาม) และครั้งที่ 2 ไม่ต้องเปิด ส่วนถ้าเป็นเพลง การมีเนื้อร้องอ่านประกอบจะดีมาก
หากเป็นการพูด สามารถหัดได้ง่ายทั้งกับอาจารย์ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวทั่วไปเพียงอาจต้องอาศัยความกล้าในการเข้าหา และคุณสามารถนำวิธีการพูดที่ได้มาจาก "การฟัง" ข้างต้นมาพัฒนาการพูดของคุณได้ด้วย ปัจจัยสำคัญของการพูดคือ "การไม่กลัวผิด" ซึ่งหลายๆคนล้มเหลวในการหัดพูดเนื่องจากกลัวการทำผิดหรือรู้สึกอาย อันที่จริงแล้ว การพูดผิดเป็นเรื่องที่ธรรมชาติมากๆและเกิดขึ้นกับทุกคนที่เรียนภาษา ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องกังวล เพียงแต่นำสิ่งที่ตัวเองเคยผิดพลาดมาปรับปรุงแก้ไขในการใช้ครั้งต่อไป อีกสิ่งสำคัญในการหัดพูดคือ "การเลียนแบบเจ้าของภาษา" ซึ่งจะทำให้คุณสามารถพูดโดยที่ชาวต่างชาติเข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วยสำเนียงที่เป็นสากล ข้อนี้เป็นปัญหาอย่างมากในสังคมของเรา โดยเฉพาะอย่างยื่งกับภาษาอังกฤษ เพราะเมื่อมีคนพูดชัด ก็จะมีคนขวางด้วยคำซ้ำๆที่ว่า "กระแดะ" ซึ่งอันที่จริงการพูดภาษาต่างประเทศอย่างชัดเจนไม่น่าจะเป็นการ "กระแดะ" เท่าการพูดภาษาแม่ตัวเองด้วยสำเนียงที่ผิดเพี้ยนไปด้วยซ้ำ
ในส่วนของการอ่าน สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆด้วยการอ่านสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นภาษานั้นๆ เช่น ข่าวหรือวรรณกรรม และเมื่อมีความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่งแล้ว คุณอาจจะลองเปลี่ยนภาษาในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆให้เป็นภาษานั้นๆ แต่จะต้องมั่นใจในระดับหนึ่งว่า หากมี error แสดงขึ้นมา คุณสามารถเข้าใจได้
และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด การเขียน ซึ่งเช่นเดียวกับการพูด คุณสามารถนำทักษะที่ได้จากการอ่านมาใช้ประกอบการเขียนได้ โดยการเขียน essay ก็ถือว่าเป็นวิธีการฝึกหัดแบบหนึ่งเช่นกัน ทุกๆครั้งที่เขียนคุณควรทำให้งานของคุณดูไม่น่าเบื่อในสายตาผู้อ่าน หลีกเลี่ยงใช้คำที่ซ้ำกันบ่อยๆและหันมาหาคำอื่นๆที่มีความหมายแบบเดียวกัน
ฟังและอ่าน: รับสาร
การที่คุณจะได้รับความรู้ใหม่ๆนั้นจะมาจากการรับรู้ด้วยสายตาและหูของคุณ ฉะนั้นจงฟังและอ่านให้มาก
พูดและเขียน: ฝึกฝนและส่งสาร
ขณะเดียวกัน หากคุณต้องการจะฝึกฝนทักษะของคุณ คุณจะต้องนำไปใช้ ไม่ว่าจะผ่านการพูดหรือการเขียนก็ตาม และสองทักษะนี้ยังเป็นทักษะที่ใช้ในการสื่อสารบอกกล่าวสิ่งที่คุณคิดให้คนอื่นเข้าใจอีกด้วย
ช่างสังเกตและจดจำ
การสังเกตเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งหากเราสังเกตประโยคต่างๆที่เห็นในชีวิตประจำวัน เราอาจสามารถนำไวยากรณ์หรือหลักภาษาในประโยคนั้นไปประยุกต์ใช้กับการพูดและเขียนของเราได้
Rome wasn't built in one day...
ไม่มีใครพูดภาษาหนึ่งๆได้เก่งภายใน 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือน ทุกคนล้วนอาศัยการฝึกฝน แม้แต่ภาษาแม่ของคุณที่สามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องแคล่วลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ก็ยังใช้เวลานานมากๆกว่าคุณจะพูดได้เท่านี้ เพียงแต่คุณไม่สังเกตเห็นเพราะมันเป็นสิ่งที่คุณใช้ทุกวันจนเคยชินแล้ว อย่าพยายามเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมากเกินไป แต่จงแข่งกับตัวเองเพื่อไปถึงเป้าหมายที่คุณต้องการ
Wrapping things up
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านที่กำลังเรียนภาษา ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส หรือภาษาใดก็ตาม ให้ประสบความสำเร็จกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่และไปถึงเป้าหมายที่คุณๆุทุกคนฝันไว้ แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ขอให้ทำสิ่งที่คุณรักให้เต็มที่ก็พอแล้ว
โชคดีมีชัยจนกว่าจะพบกันใหม่อีกครั้ง,
Philm
ปล. ข้อมูลบางส่วนถูกแปลมาจาก
https://www.quora.com/How-do-I-quickly-and-efficiently-learn-a-new-language
ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้
ปล2. ขอมอบ guide นี้ให้กับเพื่อนรักอธิวัฒน์ แย้มนาม (อ่านแล้วเอาไปใช้ด้วยเน้อ)
No comments:
Post a Comment